อย่างที่ทราบกันดีว่า หากคุณต้องการสร้างสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน ไม่ว่าจะเป็นบ้าน อาคารพาณิชย์ หรือแม้แต่โรงงานอุตสาหกรรม เมื่อจัดทำเรื่องการขออนุญาต ตามข้อกฎหมายทั้งหมดแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือ การหาผู้ รับสร้างโรงงาน ที่ดี ซึ่งปัจจัยข้อหนึ่งที่ควรนำมาเป็นข้อเปรียบเทียบนั้นก็คือ สัญญาจ้าง เพราะสัญญาจะเป็นเครื่องการันตีการดำเนินงาน ให้เป็นไปได้ตามที่ตกลงไว้ รวมถึงป้องกันไม่ให้งบประมาณบานปลายระหว่างการก่อสร้างอีกด้วย
วันนี้ V.K.B. จึงอยากพาทุกท่านมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสัญญาจ้าง สำหรับการรับเหมาก่อสร้างโรงงาน ว่ามีสัญญาจ้างแบบใดบ้าง แต่ละแบบมี ข้อดี – ข้อเสีย อย่างไร และรายละเอียดต่างๆ ที่ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบ หากอยากรู้แล้วติดตามรายละเอียดกันต่อได้ในบทความนี้เลย !
รับสร้างโรงงาน มีสัญญาจ้างแบบไหนบ้าง?
สัญญาการก่อสร้าง เป็นการตกลงร่วมกันระหว่างผู้รับเหมาก่อสร้าง และผู้ว่าจ้าง เกี่ยวกับรายละเอียดข้อกฎหมาย และรายละเอียดการก่อสร้างต่างๆ ซึ่งทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่เกิดการเสียเปรียบ ตาม พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค เรื่องให้ธุรกิจรับจ้างอาคารเพื่อการอยู่อาศัยเป็นธุรกิจควบคุมสัญญา พ.ศ.2559 ในมาตรา 35 ทวิ
โดยสัญญาก่อสร้างที่นิยมใช้ ก็จะมีทั้งสิ้น 5 ประเภท ดังต่อไปนี้
- สัญญาจ้างก่อสร้างแบบเหมารวม (Lump Sum Contract) – เป็นสัญญาที่ผู้ว่าจ้าง จัดเตรียมแบบแปลน การออกแบบ และสเปควัสดุที่ใช้ไว้ แล้วจึงจัดหาผู้รับเหมา ดังนั้นสัญญาประเภทนี้จึงมีความสะดวกต่อการติดต่อประสานงาน แต่อาจมีราคาสูงกว่าปกติเพราะผู้รับจ้างเป็นผู้คำนวณราคา เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
- สัญญาจ้างแบบราคาต่อหน่วย (Unit Price Contract) – เป็นสัญญาที่ตกลงเกี่ยวกับราคาต่อหน่วยของทุกรายการที่จะใช้ครอบคลุมทั้งการก่อสร้าง โดยไม่กำหนดวันแล้วเสร็จ สัญญานี้จึงมีความยืดหยุ่นเรื่องของงบประมาณ และราคา โดยหากงบประมาณเกิดความติดขัดก็สามารถพักการสร้างก่อนได้
- สัญญาจ้างออกแบบรวมก่อสร้าง (Design-build Contract) – สัญญาประเภทนี้จะเป็นการจ้างรวมทั้งการออกแบบอาคาร โครงสร้าง ตลอดไปจนถึงโครงการรับเหมาก่อสร้างร่วมกันเป็นทีม โดยมีจุดเด่นคือ ผู้ออกแบบ และผู้รับเหมาสามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้อย่างราบรื่น แต่ก็แลกมากับมูลค่าสัญญาที่ค่อนข้างสูง เพราะผู้รับจ้างจำเป็นต้องเพิ่มความเสี่ยง เช่น ราคาวัสดุ หรือปริมาณงานที่ไม่แน่นอน
- สัญญาเหมาจ้างแบบเบ็ดเสร็จ (Turnkey Contract) – สำหรับสัญญาแบบเบ็ดเสร็จ ผู้รับเหมาจะรับผิดชอบเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการทั้งหมดตั้งแต่การหาเงินลงทุน เทคโนโลยีที่นำมาใช้ การออกแบบ และวิธีการก่อสร้างจนโครงการเสร็จสิ้น โดยผู้ว่าจ้างสามารถผ่อนชำระค่าก่อสร้างที่หลังได้ นิยมใช้กับโครงการขนาดใหญ่ เช่นหมู่บ้านจัดสรร การสร้างโครงการขาย แต่ก็มีความเสี่ยงเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณตามค่าเงิน เพราะมูลค่าโครงการค่อนข้างสูง
- สัญญาจ้างแบบคิดค่าใช้จ่ายทั้งหมดบวกเงินเพิ่มพิเศษ (Cost-plus Contract) – เป็นสัญญารูปแบบทั่วไปที่นิยมใช้ โดยผู้รับจ้างจะเป็นผู้ประกันค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการก่อสร้าง โดยอีกฝ่ายจำเป็นต้องจ่ายเงินคืนตามจำนวนต้นทุนบวกกับกำไรตามสัดส่วนมูลค่าเต็มของสัญญา ดังนั้นสัญญาแบบนี้จึงเหมาะกับโครงการที่ถูกจำกัดงบประมาณ หรือมีแนวโน้มที่จะใช้งบประมาณน้อยกว่าที่ประมาณการไว้
เอกสารประกอบสัญญาก่อสร้าง มีอะไรบ้าง
จะเห็นได้ว่าท่านสามารถพบปัญหาที่เกิดจากการก่อสร้าง ระหว่างผู้ว่าจ้าง และผู้รับเหมาอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณสูงเกินข้อตกลง ส่งโครงการล่าช้าเกินกำหนด การก่อสร้างไม่เป็นไปตามแพลน ฯลฯ โดยปัญหาทั้งหมดนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น การร่างสัญญา การขาดการศึกษาข้อมูล ตลอดไปจนถึงความไว้ใจต่อคู่สัญญา จึงทำให้สัญญาที่สร้างมานั้นไม่ครอบคลุมข้อกฎหมาย และเปิดช่องโหว่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกเอาเปรียบ
ดังนั้นก่อนลงนามในสัญญาทั้งผู้รับเหมา และผู้ว่าจ้าง ต้องอ่านสัญญาอย่างละเอียด และเข้าใจกระบวนการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน และดำเนินงานต่อไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งสัญญาที่ดีนั้นจำเป็นต้องมีรายละเอียด ยกตัวอย่าง เช่น
- ข้อตกลงในการว่าจ้าง
- อำนาจในการดำเนินงานของผู้ว่าจ้าง และผู้ รับสร้างโรงงาน
- หลักประกัน
- ค่าจ้าง และการจ่ายเงิน
- วันที่สร้างสัญญา และกำหนดเวลาแล้วเสร็จ (ขึ้นอยู่กับประเภทสัญญา)
- ความรับผิดชอบหากเกิดเหตุไม่คาดคิด หรือการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหาย
- ค่าปรับ และค่าเสียหายทดแทน
- รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ แบบแปลนการออกแบบ และรายละเอียดรายการทั้งหมด
- ข้อชี้แจงกรณีบ่งชี้ให้เกิดการเลิกจ้าง หรือเลิกสัญญา เพราะเหตุใด
- ข้อตกลง และข้อกำหนดเฉพาะด้าน (ขึ้นอยู่กับรายละเอียด และประเภทโครงการ)
รายละเอียดในสัญญาก่อสร้างที่ฝ่ายผู้ รับสร้างโรงงาน ต้องรับผิดชอบ
ในหัวข้อก่อนเราได้พูดถึงมุมของผู้ว่าจ้างกันไปแล้ว ในหัวข้อนี้หากมองในมุมของผู้รับเหมา ฝ่ายรับจ้างก็จำเป็นที่จะต้องเข้ามาตรวจสอบ และวางแผนการดำเนินงาน ให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อที่จะสามารถระบุแผนงาน แจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่าย และเข้าดำเนินงานตามแผนที่กำหนด โดยรายละเอียดในสัญญาที่ผู้รับจ้างจำเป็นต้องรับผิดชอบ ก็จะมี
- ผู้รับจ้างจำเป็นต้องเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ สถานที่ และสภาพที่เป็นอยู่ปัจจุบัน รังวัดตรวจสอบหมุดหลักเขต จัดทำระดับแนวและระยะต่าง ๆ ในแบบก่อสร้างและดำเนินการเสนอผลการตรวจสอบให้แก่ผู้ว่าจ้าง พร้อมทั้งแสดงสภาวะของสภาพดังกล่าวอันจะทำให้เกิดการกระทบกระเทือนยุ่งยากแก่งานที่ระบุในสัญญา (ในกรณีที่เป็นการก่อสร้าง โครงการขึ้นใหม่ เป็นพื้นที่โล่ง)
- ผู้รับจ้างต้องศึกษารายละเอียด และตรวจสอบแบบแปลน รวมถึงความต้องการของผู้ว่าจ้าง เพื่อที่จะเสนอแบบขยายรายละเอียด ทั้งวิธีการก่อสร้าง ตำแหน่ง และระยะต่างๆ รวมถึงวิธีปฏิบัติงานอย่างละเอียด
ทั้งนี้ การแสดงรายละเอียดของแผนงานทั้งหมด ทั้งแผนการขยายเวลา คุณภาพฝีมือของแรงงาน ประกันภัย ฯลฯ ที่ควรมีการระบุชัดเจนในสัญญาว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรายการดังกล่าว
V.K.B. รับสร้างโรงงาน พร้อมทีมงานมืออาชีพ ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี
จะเห็นได้ว่า นอกจากการออกแบบ สถานที่ตั้ง และฟังก์ชันของโรงงานแล้ว เจ้าของโรงงานก็จำเป็นที่จะต้องมีความรู้ และความเข้าใจ เกี่ยวกับการทำสัญญาว่าจ้าง ก่อนจะก่อสร้างโรงงานเป็นของตัวเอง เพราะหากเกิดความผิดพลาดขึ้น ผู้ว่าจ้างก็จะได้รับผลกระทบและความเสียหายน้อยที่สุด
ดังนั้นหากใครกำลังมองหาผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์สูง เราขอแนะนำ V.K.B. ผู้รับเหมาชั้นนำด้านการออกแบบ และก่อสร้างโรงงาน เรายังมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำ หรือคำปรึกษาด้านการก่อ สร้างโรงงาน ทุกรูปแบบ ให้บริการตั้งแต่การก่อสร้าง ออกแบบ ให้คำปรึกษาในการบริหารโครงการ โดยที่ดูแลคุณตั้งแต่ต้นจนถึงวันที่ส่งมอบงาน ทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่าทุกบริการ จะตอบโจทย์ความต้องการ และมีคุณภาพอย่างแน่นอน
- งานก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้างด้วยทีมงาน บุคลากร และ Outsource คุณภาพที่พร้อมบริการอย่างเต็มที่
- งานออกแบบ มีผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ รวมทั้งนักออกแบบรุ่นใหม่ ที่พร้อมออกแบบเพื่อให้ตอบโจทย์ตามสไตล์ของคุณ
- ให้คำปรึกษา และ บริหารโครงการ นอกจากการก่อสร้างแล้ว เรายังให้คำแนะนำ ปรึกษา และ ช่วยเหลือปัญหาที่เกิดจากการก่อสร้างทุกรูปแบบ
ต้องการผู้ รับสร้างโรงงาน อุตสาหกรรมดีๆ สามารถสอบถาม V.K.B และ ดูข้อมูลเพิ่มเติมช่องทางอื่นๆ ได้เลย
Facebook : VKB Contracting
Line : @vkbth
Tel : 081-735-6625 , 097-445-4146 , 02-377-6591 , 02-735-1636 , 02-735-1637
Email : vkb.cont@gmail.com