เสาเข็ม มีกี่ประเภท ? ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าเสาเข็มมีความสำคัญอย่างไรกับงานก่อสร้าง โดยส่วนมากจะมีความสำคัญในด้านการเสริมความแข็งแรงให้กับสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งก่อนที่ทุกคนจะไปศึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนการใช้งานนั้น เราต้องไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียด และ ประเภทของเสาเข็มกันก่อน เพื่อเป็นการเลือกใช้งานอย่างเหมาะสม ซึ่งในบทความนี้ทาง V.K.B จะชวนทุกคนไปหาคำตอบ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!
เสาเข็มคืออะไร ทำไมถึงต้องมี?
เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยเห็นเสาเข็มในงานก่อสร้างทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้างบ้าน สร้างอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ แต่รู้หรือไม่!? “เสาเข็ม” มีความสำคัญต่ออาคาร หรือ สิ่งปลูกสร้างอย่างมาก เพราะ เสาเข็ม (Pile) ช่วยทำหน้าที่ในการยึดเกาะสิ่งปลูกสร้างไว้กับพื้นดิน ช่วยรับน้ำหนัก และ กระจายน้ำหนักของสิ่งก่อสร้างไปยังชั้นพื้นดินให้มีความแข็งแรง และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทรุดตัว ถ้าหากใช้เสาเข็มถูกประเภทก็จะยิ่งช่วยเสริมความมั่นคงให้กับงานก่อสร้าง และ ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัยอีกด้วย
เสาเข็ม มีกี่ประเภท
เสาเข็มแต่ละประเภทมีอะไรบ้าง? สำหรับเจ้าของบ้านหรือผู้ว่าจ้าง และ ผู้รับเหมามือใหม่ ควรทำความรู้จักประเภทของเสาเข็มก่อนที่จะเริ่มงาน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการทำงาน โดยประเภทของเสาเข็มชนิดต่างๆ ที่ใช้กับตัวบ้านและอาคารทั่วไป แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ นั่นก็คือ เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง เสาเข็มเจาะ และ เสาเข็มกลมแรงเหวี่ยงอัดแรง ซึ่งรายละเอียดของเสาเข็มแต่ละประเภทจะมีอะไรบ้างไปดูกัน!
เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง
เสาเข็มชนิดนี้เป็นประเภทที่คนนิยมนำมาใช้มากที่สุด เพราะมีราคาประหยัด และสามารถผลิตได้ในจำนวนเยอะ โดยส่วนใหญ่จะใช้สำหรับอาคารพาณิชย์ และ บ้านพักอาศัยทั่วไป เสาเข็มชนิดนี้เป็นคอนกรีตที่ทำมาจากปูนซีเมนต์ชนิดแข็งตัวเร็ว ประกอบไปด้วยโครงเหล็กภายในที่ทำจากลวดเหล็กอัดแรงกำลังสูง มีความสามารถในการรองรับน้ำหนักอยู่ที่ 10-80 ตันต่อต้น
เสาเข็มเจาะ
เสาเข็มประเภทนี้จะแตกต่างจากเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงในด้านของการใช้งาน เสาเข็มชนิดนี้จำเป็นต้องทำในพื้นที่จริง และมีวิธีการที่ซับซ้อนกว่า โดยวิธีการคือ ต้องใช้เครื่องมือขุดเจาะขุดดินลึกตามกำหนด จากนั้นใส่เหล็กเสริมและเทคอนกรีตลงไปเพื่อหล่อเป็นเสาเข็ม นิยมนำมาใช้ในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด อย่างเช่นการต่อเติมพื้นที่ในอาคาร ข้อดี คือ สร้างผลกระทบต่อพื้นที่ใกล้เคียงน้อย นอกจากนี้ยังแบ่งเป็นอีก 2 ประเภทนั่นก็คือ 1. เสาเข็มเจาะขนาดเล็ก และ 2. เสาเข็มเจาะขนาดใหญ่
เสาเข็มกลมแรงเหวี่ยงอัดแรง
ประเภทเสาเข็มกลมแรงเหวี่ยงอัดแรง หรือ เสาเข็มสปัน เสาเข็มสปันจะมีลักษณะเป็นทรงกลมตรงกลางกลวง มีโครงเหล็กอัดแรงอยู่ในเนื้อคอนกรีต โดยวิธีการทำเสาเข็มประเภทนี้ คือ นำคอนกรีตไปปั่นในแบบหล่อด้วยความเร็วสูง แล้วใช้ผงดินเหนียวผสมน้ำลงไปในรูเจาะ ขั้นตอนนี้จะทำให้เนื้อคอนกรีตมีความหนาแน่นสูงกว่าคอนกรีตหล่อทั่วไป จึงส่งผลให้เสาเข็มประเภทนี้สามารถรับน้ำหนักได้ดี และมีความแข็งแกร่งสูง
การตอกเสาชนิดนี้สามารถทำได้หลายแบบ ทั้งการตอกด้วยปั้นจั่นธรรมดา และ การตอกแบบเจาะกด เหมาะสำหรับใช้เป็นฐานรากของอาคารสูงที่ต้องการความมั่นคง เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องลมแรง และ การเกิดแผ่นดินไหว
วิธีการเลือกใช้เสาเข็ม
เมื่อรู้จักประเภทของเสาเข็มกันไปแล้ว จากนั้นขั้นตอนต่อไป คือ วิธีการเลือกใช้เสาเข็ม โดยเจ้าของบ้านหรือผู้ว่าจ้างต้องเข้าใจวิธีการใช้งานของเสาเข็มแต่ละประเภทด้วย เพื่อความเหมาะสมต่อการใช้งาน และ โครงสร้างของสิ่งปลูกสร้างที่แข็งแรง โดยเสาเข็มที่คนส่วนใหญ่นิยมนำมาสร้างอาคาร หรือ บ้านเรือน ทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
1. เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง เสาเข็มในลักษณะนี้ โครงสร้างภายในทำมาจากปูนซีเมนต์ชนิดแข็งตัวเร็ว และ โครงเหล็กที่ทำจากลวดเหล็กอัดแรงกำลังสูง มีกรรมวิธีในการลงเสาเข็มไม่ยุ่งยาก และ ประหยัดค่าใช้จ่าย ในปัจจุบันเสาเข็มชนิดนี้นิยมนำมาใช้สร้างอาคารพาณิชย์ และ ที่พักอาศัยทั่วไป โดยสามารถแบ่งออกเป็นลักษณะต่างๆ ได้แก่
- เสาเข็มรูปตัวไอ เสาเข็มลักษณะนี้จะมีน้ำหนักเบา รองรับน้ำหนักได้เยอะ และมีความทนทาน ด้วยความแข็งแรงของเสาเข็มชนิดนี้จึงนิยมนำมาใช้รองรับน้ำหนักของตัวบ้านเรือนและอาคาร นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย
เหมาะสำหรับการสร้างโรงจอดรถ งานก่อสร้างสระว่ายน้ำ งานก่อสร้างบ่อน้ำ รวมถึงการต่อเติมอาคารต่างๆ เนื่องจากเสาเข็มชนิดนี้มีหลายขนาดจึงสามารถนำไปปรับใช้กับสิ่งปลูกสร้างที่มีทั้งขนาดเล็ก และ ขนาดใหญ่ได้หลากหลายรูปแบบ
- เสาเข็มรูปตัวที เสาเข็มชนิดนี้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานที่มีโครงสร้างเล็ก หรือ รองรับน้ำหนักได้น้อยกว่าเสาเข็มรูปตัวไอ เหมาะสำหรับงานฐานรากของรั้วบ้าน งานต่อเติมอาคาร การเสริมสร้างความแข็งแรงของพื้นถนน และ ทางเชื่อมระหว่างอาคาร เป็นต้น
- เสาเข็มหกเหลี่ยมหรือแปดเหลี่ยมชนิดกลวง เสาเข็มชนิดนี้มีลักษณะด้านนอกเป็นหกเหลี่ยม ด้านในเป็นรูกลวงยาว คุณสมบัติเหมือนกับเสาเข็มรูปตัวที เหมาะกับโครงสร้างเล็ก และ สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี หรืองานในพื้นที่แคบ เหมาะสำหรับการสร้างลานจอดรถ พื้นโกดัง หรือใช้รองรับน้ำหนักในส่วนที่ต่อเติมเพื่อป้องกันการทรุดตัว
- เสาเข็มสี่เหลี่ยมตัน เสาเข็มชนิดนี้นิยมนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ผลิตจากคอนกรีต อัดแรงเสริมด้วยลวดอัดแรง PC wire มีความทนทานเป็นพิเศษ สามารถรองรับน้ำหนักได้เยอะ มีให้เลือกใช้งานตามขนาดหน้าตัด และความยาวตามที่ต้องการ
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้จึงทำให้เสาเข็มสี่เหลี่ยมตัน ที่มีความแข็งแรงและสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี จึงนิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของโครงสร้างที่อยู่ใต้สุดของสิ่งปลูกสร้าง ทำหน้าที่เป็นฐานรากเพื่อรองรับน้ำหนักสิ่งปลูกสร้างตั้งแต่ขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ แล้วถ่ายน้ำหนักลงสู่พื้นดิน เหมาะสำหรับการสร้างบ้านเรือน อาคาร โรงงาน งานสะพาน และ งานรากฐานขนาดกลาง ไปจนถึง งานก่อสร้างขนาดใหญ่ เป็นต้น
2. เสาเข็มเจาะ เสาเข็มประเภทนี้มีลักษณะการใช้งานแตกต่างจากเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง และมีวิธีการที่ซับซ้อนกว่า กระบวนการทำ คือ ต้องทำในสถานที่จริง โดยใช้เครื่องมือขุดเจาะขุดดินลงไปให้ได้ความลึกและได้ขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางตามที่กำหนด
ประโยชน์ของการทำเสาเข็มเจาะในสิ่งปลูกสร้าง คือ รองรับน้ำหนัก และ ป้องกันไม่ให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่อาจเป็นอันตรายต่ออาคารข้างเคียง เหมาะสำหรับอาคารสูง ซึ่งตามกรรมวิธีเสาเข็มเจาะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
- เสาเข็มเจาะขนาดเล็ก ลักษณะของเสาเข็มประเภทนี้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 35-60 เซนติเมตร มีความลึกอยู่ประมาณ 18-23 เมตร กระบวนการที่ใช้มักจะเป็นการเจาะแบบระบบแห้ง (dry process) เป็นการขุดเจาะโดยใช้เครื่องมือขุดเจาะธรรมดา
- เสาเข็มเจาะขนาดใหญ่ ลักษณะของเสาเข็มประเภทนี้จะมีขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 80-150 เซนติเมตร มีความลึกประมาณ 25-65 เมตร กระบวนการที่ใช้จะเป็นการเจาะแบบระบบเปียก (wet process) แตกต่างจากระบบแห้ง คือ เพิ่มขั้นต้องการฉีดสารเคมีเหลวที่เรียกว่า Bentonite slurry ลงไปในหลุมที่ต้องทำการขุดเจาะ เพื่อสร้างแรงดันในหลุมและประสานผิวดินในหลุมเพื่อป้องกันการพังทลายของผนังดินในหลุมขุดเจาะ
3. เสาเข็มกลมแรงเหวี่ยงอัดแรง หรือชื่อเรียกทั่วไปคือ เสาเข็มสปัน มีขั้นตอนการผลิตโดยใช้คอนกรีตปั่นในแบบหล่อด้วยความเร็วสูง เพื่อสร้างมวลความหนาแน่นในเนื้อคอนกรีต โดยลักษณะของเสาจะเป็นทรงกลม ตรงกลางเป็นรูกลวง มีโครงเหล็กอัดแรงฝังอยู่ในเนื้อผิวคอนกรีตและมีความหนาของเนื้อผิวอยู่ 6-14 เซนติเมตร
ขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 20-100 เซนติเมตร และ มีความยาวประมาณ 6-18 เมตร ในด้านการใช้งานเหมาะสำหรับใช้เป็นฐานรากของอาคารสูง ซึ่งประโยชน์ของเสาเข็มสปัน คือ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนที่มีต่อพื้นที่ข้างเคียง และทำให้ฐานรากของอาคารมีความแข็งแรงสูง
การตอก เสาเข็ม มีกี่แบบ?
การตอกเสาเข็ม คือ กระบวนการหนึ่งในงานก่อสร้างที่ทำให้เสาเข็มอยู่ใต้พื้นดิน ตรงตามตำแหน่งที่เราต้องการ เพื่อใช้รองรับน้ำหนักของสิ่งปลูกสร้างนั้นๆ โดยวิธีการตอกเสาเข็มนั้นมีอยู่ 4 แบบด้วยกัน
1. Drop hammer เป็นวิธีการดั่งเดิมที่ใช้ในวงการก่อสร้างมาอย่างยาวนาน การตอกในลักษณะนี้จะประกอบไปด้วยปั้นจั่นขนาดใหญ่ และลูกตุ้มที่สามารถยกขึ้นลงได้ตามระดับที่ต้องการ โดยใช้เส้นลวดสลิงหรือเครื่องกว้านเป็นตัวยกลูกตุ้มขึ้นตามระยะที่กำหนด แล้วปล่อยลงมายังเสาเข็ม
โดยลูกตุ้มที่ใช้ต้องมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักเสาเข็ม (ในกรณีที่เป็นเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็ก) วิธีการนี้สามารถใช้ตอกเสาเข็มได้ทุกประเภท และมีค่าใช้จ่ายต่ำ
2. Steam hammer การตอกเสาเข็มในลักษณะนี้จะประกอบไปด้วยกรอบเหล็ก วางเป็นรางให้ลูกตุ้มสามารถวิ่งขึ้นวิ่งลง ซึ่งจะใช้วิธีการบังคับลูกตุ้มให้เคลื่อนไหวด้วยการระเบิดของไอน้ำ แรงอัดอากาศ หรือ สร้างแรงดันไฮดรอลิค เพื่อยกน้ำหนักลูกตุ้มให้สูงตามต้องการ แล้วปล่อยให้ตกกระแทกอย่างอิสระ
เมื่อระบบทำงานการตอกจะมีระยะคงที่และสม่ำเสมอ การตอกในลักษณะนี้สามารถใช้ตอกเสาเข็มได้ทุกประเภท มีประสิทธิภาพสูง และสร้างความเสียหายในพื้นที่ข้างเคียงน้อยกว่าการตอกแบบ Drop hammer
3. Water jet การตอกในลักษณะนี้ คือ การฝังท่อเข้าไปในเสาเข็ม จากนั้นทำการอัดน้ำแรงดันสูงลงไปตามท่อ โดยน้ำจะถูกส่งไปยังปลายของเสาเข็ม ซึ่งแรงดันของน้ำจะทำให้ดินรอบๆ ปลายเสาเข็มหลวม ทำให้เสาเข็มสามารถจมลงในพื้นดินด้วยน้ำหนักของตัวมันเอง
ซึ่งการตอกในลักษณะนี้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่เป็นดินกรวดและดินทราย หรือเสาเข็มที่ออกแบบให้สามารถรองรับน้ำหนักที่ปลาย ไม่เหมาะในบริเวณที่เป็นดินเหนียว และดินตะกอน เพราะจะทำให้บริเวณรอบๆ เสาเข็มนั้นเป็นน้ำโคลน
4. Jacking การตอกเสาเข็มในลักษณะนี้ ต้องตอกบริเวณที่มีระยะยกไม่สูงมาก หรือเป็นบริเวณที่ไม่เกิดการสั่นสะเทือน วิธีนี้ต้องใช้การตอกแบบ Hydraulic Jack หรือ การกด เสริมเข้าไปด้วย เพื่อกดเสาเข็มให้จมลงในพื้นดิน โดยเสาเข็มที่ใช้อาจเป็นเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็ก หรือ ท่อเหล็กท่อน
อยากได้งานก่อสร้างที่มีคุณภาพ ให้ V.K.B เป็นคำตอบ
ประเภทของเสาเข็ม และ วิธีการใช้งาน เป็นสิ่งสำคัญขั้นพื้นฐานที่ผู้ว่าจ้างต้องรู้ เพราะการวางฐานรากของเสาเข็ม คือ ขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญในงานก่อสร้าง ดังนั้นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ว่าจ้างควรทำความเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับงานก่อสร้างอย่างละเอียด เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในภายหลัง
ถ้าไม่อยากให้เกิดข้อผิดพลาด ทางเราขอแนะนำ V.K.B contracting บริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ให้บริการออกแบบ และ ก่อสร้าง รวมถึงให้คำแนะนำ บริหารโครงการ ที่เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 30 ปี ทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่างานจะออกมาอย่างที่คุณต้องการ และ มีประสิทธิภาพทุกขั้นตอน!
- งานก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้างด้วยทีมงาน บุคลากร และ Outsourch คุณภาพที่พร้อมบริการอย่างเต็มที่
- งานออกแบบ มีผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ รวมทั้งนักออกแบบรุ่นใหม่ ที่พร้อมออกแบบเพื่อให้ตอบโจทย์ตามสไตล์ของคุณ
- ให้คำปรึกษา และ บริหารโครงการ นอกจากการก่อสร้างแล้ว เรายังให้คำแนะนำ ปรึกษา และ ช่วยเหลือปัญหาที่เกิดจากการก่อสร้างทุกรูปแบบ
สามารถสอบถาม V.K.B และ ดูข้อมูลเพิ่มเติมช่องทางอื่นๆ
Facebook : VKB Contracting
Lin : @vkbth-
Tel : 081-735-6625 , 097-445-4146 , 02-377-6591 , 02-735-1636 , 02-735-1637
Email : vkb.cont@gmail.com